ตำบลหนองผักนาก ในสมัยโบราณวัดในชนบทบ้านนอกไม่ค่อยจะมีวัดในเช่นปัจจุบัน เพราะส่วนใหญ่วัดหรือบ้านต่างๆ จะต้องอาศัยแหล่งน้ำ เช่น หนอง บึง ลำคลองและแม่น้ำ เป็นที่อยู่อาศัย ดังนั้นแม่น้ำสายท่าจีน ซึ่งเป็นสายเลือดใหญ่จึงมีบ้านคนและวัดต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ในช่วงฤดูบวชนาคชาวบ้านก็จะต้องใช้เวลาเดินทางค้างคืน – ค้างวัน ต้องหยุดพักอาศัยที่หนองน้ำจนได้ชื่อว่าหนองพักนาค อีกทั้งยังมีฝูงช้าง ม้า วัว ควาย ได้มาอาศัยหยุดพักกินน้ำเพื่อเดินทางกาลเวลาผ่านไปได้มีชุมชนมาอาศัย ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้หนองน้ำดังกล่าว และเพื่อเป็นหลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงได้มีการตั้งวัดขึ้นมาชื่อว่าวัดหนองพักนาค และเมื่อกาลเวลาผ่านไปการเรียกชื่อได้มีการผิดเพี้ยนไป จากคำว่า“พักนาค” ก็ได้เปลี่ยนเป็น“ผักนาก” จึงเป็นสาเหตุให้เรียกชื่อตำบลนี้ว่า“ตำบลหนองผักนาก” สืบมาจนกระทั่งปัจจุบัน
สืบเนื่องจากการสอบถาม คนเก่าคนแก่ของชาวหนองผักนาก ท่านให้ข้อมูลมาว่า “บ้านหนองผักนาก” เดิมชื่อ “บ้านดอนลาว” มีหนองน้ำใหญ่ติดกับหมู่บ้าน เรียกหนองน้ำนั้นว่า “หนองผักนาก” ในอดีตโดยรอบหมู่บ้านมีวัดร้างอยู่ 1 วัด ได้แก่ วัดหนองกาเล หรือออกเสียงเป็น หนองกะเล ชาวบ้านละแวกนั้นเคยเรียกว่า ดอนวัด อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านหนองผักนาก ด้านเหนือของบริเวณนี้จะมีบ่อน้ำร้อน ซึ่งเรียกกันว่า บ่อแร่ แต่เจ้าของนาบริเวณนั้น ได้ไถกลบไปเมื่อประมาณ พ.ศ.2525 ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2529 กำนันลาน สว่างศรี ได้นำแนวคิดการสร้างที่เก็บผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวเปลือกซึ่งในขณะนั้นราคาตกต่ำมาก มาจากประเทศจีน วัสดุที่ใช้คือดินเหนียวกับฟางข้าวก่อเข้ากับโครงเหล็ก เป็นสิ่งก่อสร้าง
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Download 